ตรวจตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วัน วิธีไหนได้ผลแม่นยำที่สุด ?

  •  26 พ.ค. 67

สำหรับสาวๆ หรือว่าที่คุณแม่มือใหม่คนไหนที่มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ ประจำเดือนไม่มา และกำลังลุ้น หรือสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์หรือไม่ การตรวจตั้งครรภ์ อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา เพราะบางครั้งการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย หรือสัญญาณเตือนเบื้องต้น ก็ไม่ได้แม่นยำเสมอไป ในบทความนี้เราจึงรวบรวมคำตอบมาให้แล้วว่า การตรวจตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วัน ต้องเว้นระยะนานเท่าไหร่จึงได้ผลที่ชัดเจน และต้องตรวจด้วยวิธีไหนจึงจะได้ผลที่แม่นยำที่สุด

ตรวจตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วัน 

การตรวจตั้งครรภ์คืออะไร

การตรวจตั้งครรภ์ เป็นการตรวจเพื่อยืนยันว่ามีการตั้งครรภ์จริงหรือไม่ เพื่อให้ว่าที่คุณแม่มือใหม่เตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในการดูแลตัวเองและลูกน้อยที่อยู่ในท้อง โดยจะเป็นการตรวจหาระดับค่าฮอร์โมน hCG ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะสามารถตรวจพบได้หลังจากผ่านการปฏิสนธิไปแล้ว 6 วัน หากมีระดับ hCG สูงก็แปลว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่ถ้าระดับ hCG อยู่ในระดับต่ำถึงต่ำมาก ก็แปลว่ายังไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ จะอยู่ที่ 25 mIU/mL แต่ถ้าหากตรวจพบอยู่ที่ 6-24 mIU/mL ถือว่าเป็นระยะอ่อนไหวที่อาจจะต้องกลับมาตรวจอีกรอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น

ตรวจการตั้งครรภ์เร็วสุดกี่วัน

หลายคนก็อาจจะสงสัยว่า หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว อีกกี่วันถึงจะรู้ว่าท้อง? และกระบวนการที่จะสามารถบอกได้ว่าท้องหรือไม่ท้องนั้นก็คือการตรวจครรภ์นั่นเอง ซึ่งก็สามารถเลือกได้ว่าจะตรวจด้วยตนเอง หรือเข้ารับการตรวจโดยตรงกับแพทย์

ส่วนระยะเวลาในการตรวจนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าคำนวณวันตกไข่ไว้ได้อย่างแม่นยำหรือไม่ เพราะถ้าหากคำนวณวันตกไข่เอาไว้แล้ว หลังจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ไปอีก 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิเสร็จสมบูรณ์พอดี ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

แต่ไม่ควรตรวจครรภ์เร็วเกินไป เพราะการตรวจครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ผ่านไปแค่ไม่กี่วัน ไม่ได้เป็นตัวการันตีผลตรวจครรภ์ว่าจะมีความแม่นยำสูง แต่กลับเสี่ยงที่จะเกิดการคลาดเคลื่อนเพราะการปฏิสนธิอาจจะยังไม่สมบูรณ์ดี ทางที่ดีควรรออย่างน้อย 12-14 วันหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ในวันตกไข่จะได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด

ตรวจตั้งครรภ์ด้วยวิธีไหน ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด

ปัจจุบันการตรวจ การตั้งครรภ์สามารถตรวจได้หลายวิธี ทั้งการตรวจด้วยตัวเอง และการไปพบคุณหมอเพื่อตรวจด้วยวิธีทางการแพทย์ เราลองมาดูกันว่า มีวิธีไหนบ้างและวิธีไหนที่จะสามารถให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด

1.การตรวจตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ

การตรวจตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะนี้ ถือว่าเป็นวิธียอดฮิต ที่ทำได้ง่าย และสามารถทำด้วยตัวเองที่บ้านได้ผ่านชุดทดสอบการตั้งครรภ์จากปัสสาวะที่จำหน่ายอยู่ในร้านค้าทั่วไปหรือร้านขายยา ซึ่งหากผลจากที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด หรือผลเป็นบวก ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่ด้วย เพราะน่าจะกำลังมีเบบี๋ตัวน้อย ๆ เข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวเร็ว ๆ นี้

ในปัจจุบันชุดทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ ก็มีหลายประเภท ดังนี้

  • ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม 

อุปกรณ์ชุดนี้จะมีราคาถูกที่สุดในบรรดาทุกทดสอบ ประกอบไปด้วยแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ และถ้วยตวง (บางยี่ห้อไม่มี) วิธีการใช้คือเก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง แล้วนำแผ่นทดสอบจุ่มลงในถ้วยตวงประมาณ 3 วินาที แล้วนำออกมาจากถ้วยตวง ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีเพื่อรออ่านผลตรวจครรภ์ ข้อควรระวัง คือ อย่าให้น้ำปัสสาวะเลย หรือสูงเกินกว่าขีดลูกศรของแผ่นทดสอบ

  • ที่ตรวจครรภ์แบบหยด 

ชุดทดสอบประเภทนี้จะมีเพียงแท่งตรวจครรภ์ที่ใช้ในการทดสอบเท่านั้น วิธีการใช้คือ ถอดฝาครอบออกแล้วถือแท่งให้หัวลูกศรชี้ลงพื้น แล้วปัสสาวะผ่านบริเวณที่ต่ำกว่าลูกศรให้ชุ่มประมาณ 30 วินาที จากนั้นรออ่านผลประมาณ 3-5 นาที

  • ที่ตรวจครรภ์แบบปากกา

ในชุดอุปกรณ์จะประกอบไปด้วยหลอดหยด ตลับตรวจครรภ์ และถ้วยตวงปัสสาวะ ขั้นตอนการใช้ คือ เก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง จากนั้นนำหลอดหยดดูดน้ำปัสสาวะแล้วหยดลงในตลับตรวจครรภ์ประมาณ 3-4 หยด วางตลับทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วจึงอ่านผลการตรวจ

  • ที่ตรวจครรภ์ดิจิตอล 

ประกอบไปด้วยอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว คือแท่งสำหรับตรวจครรภ์ที่เป็นแบบดิจิตอล มีลักษณะคล้ายกับที่ตรวจครรภ์แบบปากกา และวิธีใช้ก็คล้ายกันด้วย คือเพียงแค่ถอดฝาครอบแท่งตรวจครรภ์ออก แล้วถือให้ลูกศรหัวทิ่มลงพื้น จากนั้นปัสสาวะผ่านให้โดนบริเวณที่อยู่ตำกว่าลูกศร โดยปัสสาวะผ่านประมาณ 5-30 วินาที เพื่อให้ที่ตรวจครรภ์มีความชุ่มเพียงพอ จากนั้นวางพักไว้ในแนวราบ และรออีกประมาณ 5 นาที เพื่ออ่านผลลัพธ์การตั้งครรภ์

การตรวจตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ

2. ตรวจครรภ์ด้วยการเจาะเลือด

การตรวจเลือดตั้งครรภ์ หรือการตรวจเลือดเพื่อหาการตั้งครรภ์ เป็นอีกหนึ่งวิธีการตรวจครรภ์ที่ให้ผลลัพธ์แม่นยำสูง เพราะผลการตรวจเลือดไม่เพียงแค่จะบอกว่าคุณแม่กำลังตั้งท้องหรือไม่ แต่ยังสามารถตรวจเพื่อดูว่ามีปริมาณ hCG เท่าไหร่ อายุครรภ์กี่สัปดาห์แล้ว และมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ใดบ้าง ซึ่งการตรวจเลือดแบบนี้อาจจะต้องรอผลตรวจตั้งแต่ 1-3 วัน เพราะเป็นการตรวจในห้องปฏิบัติการ

3. ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยอัลตร้าซาวด์

การตรวจการตั้งครรภ์ ด้วยวิธีนี้ จะเป็นการตรวจด้วยการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในช่องท้องและสร้างภาพขึ้นมา ทำการตรวจโดยแพทย์ทั่วไปหรือสูตินรีแพทย์

ซึ่งนอกจากจะช่วยตรวจดูว่ามีการตั้งครรภ์ ยังบอกตำแหน่งการตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์แฝดหรือไม่ มีการท้องนอกมดลูกหรือไม่ มดลูกมีก้อนเนื้องอกมดลูก ถุงน้ำ หรือซีสต์รังไข่หรือไม่

นอกจากนี้ หลังอายุครรภ์ 4 เดือนไปแล้ว การตรวจอัลตร้าซาวด์ยังสามารถตรวจเพศของลูก และคัดกรองความพิการหรือภาวะผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เช่น รกเกาะต่ำ ภาวะน้ำคร่ำมากหรือน้อยเกินไป ความพิการแต่กำเนิดของทารก เป็นต้น

 

สรุป

ปัจจุบันวิธีตรวจการตั้งครรภ์นั้นมีหลายวิธี ทั้งแบบที่สามารถตรวจเองได้ที่บ้านด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อ รวมถึงสามารถเข้ารับการตรวจกับแพทย์ได้ด้วยวิธีการตรวจเลือดและอัลตราซาวน์เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่าเดิม โดยช่วงเวลาที่เร็วที่สุดในการตรวจคือประมาณ 12-14 วัน หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย จะได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด

แต่สำหรับสาวๆ คนไหนที่ลองตรวจเองดูแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจ อยากได้ผลการตรวจที่แม่นยำ และแน่นอน สามารถเข้ามาใช้บริการ  คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ ที่บริเวณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์คได้เลย เพราะที่นี่มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญให้บริการตรวจรักษา แบบผู้ป่วยนอก (OPD) โดย เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. 

สนใจสอบถาม ปรึกษา นัดหมาย ได้ที่ Call Center 02-201-0640 ถึง 45 (ในเวลาทำการ)

หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่