ประสาทหูเสื่อมมีอาการอย่างไร รู้ทันสาเหตุและวิธีป้องกันปัญหาการได้ยิน

  •  29 ก.ย. 67

ปัญหาทางการได้ยินไม่ได้เกิดกับคนที่อายุมากเท่านั้น แต่อาจเกิดได้กับบุคคลทุกวัย อันเนื่องมาจากการใช้ชีวิตและการทำงานที่อยู่ท่ามกลางมลภาวะทางเสียงไม่เท่ากัน รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย อาการ หูตึง หรือประสาทหูเสื่อม มีความรุนแรงหลายระดับตั้งแต่ได้ยินเสียงไม่ชัดเจนจนถึงขั้นหูหนวกและสูญเสียการได้ยินแบบถาวร บทความนี้จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ว่า ประสาทหูเสื่อมมีอาการเป็นอย่างไร พร้อมแนวทางการรักษาและดูแลตัวเองไม่ให้เกิดผลกระทบอื่นๆ ตามมา

 

ประสาทหูเสื่อมอาการเป็นอย่างไร ส่งผลต่อชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง

อาการหูตึงในระยะเริ่มต้นนั้นอาจสังเกตได้ยาก เพราะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตมากนัก อย่างไรก็ตาม หากเริ่มมีอาการเหล่านี้แม้แต่ข้อเดียว อย่าชะล่าใจ ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดทันที

  • มีปัญหาด้านการได้ยิน เช่น

    • ได้ยินเสียงไม่ชัด และมักต้องขอให้คู่สนทนาพูดใหม่อีกครั้ง

    • รู้สึกว่าเสียงอยู่ไกลและต้องใช้มือป้องหูเพื่อให้ได้ยินชัดขึ้น

    • ได้ยินไม่ชัดแม้จะคุยโทรศัพท์ที่ลำโพงอยู่แนบหูจนต้องกดเพิ่มเสียง

    • รู้สึกว่าไม่ค่อยได้ยินอะไรเลย แม้จะอยู่ในสถานที่ที่มีคนเยอะและเสียงดังวุ่นวาย

    • ไม่ค่อยได้ยินเสียงจากธรรมชาติ เช่น เสียงนก จิ้งหรีด

  • ได้ยินเสียงรบกวนในหู แม้จะอยู่ในที่เงียบ

    • บางคนอาจได้ยินเสียงกริ่งหรือเสียงหึ่งๆ ในหูตลอดเวลาจนรำคาญ

    • รู้สึกเหมือนมีเสียงแทรกอยู่ตลอดเวลา แม้กำลังสนทนากับผู้อื่นในที่เงียบ

  • มีความยากลำบากในการได้ยินเสียงบางโทน เช่น 

    • คู่สนทนาที่เป็นเด็กหรือผู้หญิงที่มีเสียงแหลม

    • พยัญชนะบางตัวที่เป็นเสียงลม เสียงนาสิก หรือพยัญชนะที่มีรูปปากคล้ายคลึงกับตัวอื่นจนอ่านปากลำบาก เช่น เสียง ซ ส ท ธ ฮ S T H

  • มีปัญหาด้านการพูด อีกหนึ่งอาการที่สังเกตได้ทางอ้อม คือ ผู้ที่มีปัญหาด้านการได้ยินอาจพูดน้อย ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการซึม

    • หากเกิดอาการประสาทหูเสื่อมในเด็กจะมีผลกับพัฒนาการการพูด เนื่องจากเด็กไม่มีตัวอย่างในการเลียนเสียง เช่น พูดได้ช้า ไม่ยอมพูด ไม่ขานรับ หรือไม่มีปฏิกิริยากับเสียงต่างๆ

    • หากเกิดกับผู้สูงอายุ อาจทำให้มีอาการซึมเศร้า เนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้ยินเสียงคนพูดด้วย จึงพูดน้อยลง รู้สึกไม่อยากพูดกับใคร และอาจพัฒนาไปเป็นโรคทางสมอง เช่น สมองเสื่อม

  • มีปัญหาด้านการทรงตัว เช่น เดินเซ หกล้มบ่อยแบบไม่มีสาเหตุ สามารถสันนิษฐานได้ในเบื้องต้นว่าอาจมีปัญหาเรื่องน้ำในหูไม่เท่ากันและมีปัญหาด้านการได้ยิน

 

ประสาทหูเสื่อมเกิดจากอะไร

ปัญหาด้านการได้ยิน ไม่ว่าจะเป็นอาหารหูตึงหรือหูดับเฉียบพลัน ทั้งแบบถาวรและชั่วคราว มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย แบ่งเป็นสาเหตุจากร่างกายของผู้ป่วยเอง และสาเหตุจากสภาพแวดล้อม

สาเหตุจากร่างกาย

  • ความผิดปกติของหู

    • หูชั้นนอก เช่น มีขี้หูจำนวนมาก รูหูตีบตัน

    • หูชั้นกลางหรือเยื่อแก้วหู เช่น มีอาการป่วยจนทำให้ความดันอากาศทำให้ท่อในหูชั้นกลางที่เชื่อมกับโพรงจมูกบวมและตีบตัน มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหูชั้นกลาง เยื่อแก้วหูอักเสบ เยื่อแก้วหูทะลุ 

    • หูชั้นใน เช่น เกิดอุบัติเหตุจนกระดูกในหูชั้นในหลวมหรือหลุดออกจากกัน

  • ความเสื่อมชราของร่างกาย ทำให้การส่งคลื่นเสียงไปยังสมองไม่มีประสิทธิภาพ

  • โรคหรืออาการอื่นๆ ที่มีผลข้างเคียงทำให้สูญเสียการได้ยิน เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เนื้องอกที่เส้นประสาทหู หรือการติดเชื้อที่หูชั้นในแบบเฉียบพลัน

  • ความผิดปกติตั้งแต่แรกเกิด

 

สาเหตุจากสภาพแวดล้อม

  • อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังตลอดเวลาและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น โรงงาน ร้านทำผม ร้านเชื่อมเหล็ก รันเวย์สนามบิน

  • ได้ยินเสียงดังเกินขีดจำกัดที่ปลอดภัย เช่น จากงานคอนเสิร์ต การใส่หูฟังและเปิดเสียงดังเกินไปเป็นเวลานาน

  • เดินทางไปในที่ที่ความกดอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เช่น ขึ้นเครื่องบิน

  • การรับประทานอาหารบางประเภท เช่น เนื้อหมูดิบ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคไข้หูดับและภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ 

  • ยาบางประเภทที่มีผลข้างเคียงทำให้ผู้ป่วยบางรายหูตึงชั่วคราว เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้ไอ ยาปฏิชีวนะ

 

วิธีป้องกันอาการประสาทหูเสื่อม

ได้รู้กันไปแล้วว่า ประสาทหูเสื่อมมีอาการอย่างไร และเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ถึงแม้ประสาทหูเสื่อมในผู้สูงอายุจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นตามความชราของร่างกาย แต่สำหรับบุคคลทั่วไป เราสามารถดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อไม่ให้สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ยังอายุน้อย

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่เสียงดังหรือใช้อุปกรณ์ที่มีเสียงดังเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรหาอุปกรณ์ป้องกันเสียง เช่น ที่ครอบหู หรือที่อุดหู 

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสียงดังเกินไปจนอาจเกิดอันตราย สำหรับการฟังเพลงหรือการประชุมออนไลน์ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ในสมัยนี้ ควรเลือกระดับเสียงที่เหมาะสม หรือเปิดลำโพงแทนการใช้หูฟัง 

  • ทำความสะอาดใบหูและรูหูด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรนำวัตถุแหย่ลึกเข้าไปในหู

  • หากมีอาการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจควรรักษาให้หายอย่างถูกวิธี เลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรงๆ และไม่ควรบีบหรือเอามืออุดรูจมูกขณะจาม เพราะอาจเกิดแรงดันย้อนกลับเข้าไปในโพรงจมูกซึ่งเชื่อมต่อกับหูชั้นกลาง

  • ตรวจเช็กสุขภาพกายเพื่อดูว่ามีความเสี่ยงในโรคที่อาจส่งผลต่อการได้ยินหรือไม่

  • ตรวจสุขภาพหูและทดสอบการได้ยินเป็นประจำโดยแพทย์เฉพาะทางและนักแก้ไขการได้ยิน

 

ประสาทหูเสื่อมรักษาหายไหม มีแนวทางรักษาอย่างไร

ประสาทหูเสื่อมเป็นอาการที่รักษาให้หายได้ หรือสามารถหายเองได้หากอยู่ในระยะเริ่มต้น เช่น ผู้ที่มีปัญหาด้านการได้ยินแบบเฉียบพลันจากการอักเสบหรือใช้ยาบางชนิด เมื่อรักษาอาการอักเสบนั้นหรือหยุดใช้ยา มักจะกลับมาได้ยินตามปกติ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ประสาทหูถูกทำลายแล้ว อาจไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้ 100% โดยมีแนวทางการรักษาตามระดับของความรุนแรง ดังนี้

  • ปรับตัวให้เข้ากับอาการ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นสูญเสียการได้ยิน หรือหูตึงน้อย กล่าวคือ ยังได้ยินเสียงอยู่ แต่ไม่ค่อยชัด จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพร่างกาย เช่น ระมัดระวังด้านความปลอดภัยมากขึ้น บอกให้คนรอบข้างเข้าใจเพื่อหลีกเลี่ยงการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน หัดอ่านปากเพื่อช่วยในการฟัง และรักษาสุขภาพให้ดีเพื่อไม่ให้หูตึงเพิ่มขึ้น

  • ประคับประคอง รักษาแบบประคับประคองอาการไม่ให้แย่ลงด้วยการฝึกการพูดการฟังอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากหากปล่อยให้ตัวเองไม่ได้ยินเสียงและไม่พยายามสนทนากับคนอื่น อาจทำให้ร่างกายเคยชินกับการไม่พูด ไม่ฟัง ลืมปฏิกิริยาที่ต้องตอบสนองกับเสียง จนพัฒนาเป็นอาการซึมเศร้าหรืออัลไซเมอร์ได้

  • ใช้เครื่องช่วยฟัง นอกจากการปรับตัวและประคับประคองอาการแล้ว แพทย์แนะนำให้ใช้เครื่องช่วยฟังร่วมด้วย เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วยได้ยินเสียงชัดขึ้นจนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับระดับปกติแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงการเดินเซและหกล้ม

  • ผ่าตัด สำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียการได้ยินขั้นรุนแรง กล่าวคือ หูตึงทั้งสองข้างที่ระดับ 70 เดซิเบลขึ้นไป หรือประสาทหูพิการสองข้างตั้งแต่กำเนิด จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดประสาทหูเทียม (Cochlear Implant) โดยต้องมีการฟื้นฟูสมรรถภาพการได้ยินและฝึกฝนการฟังผ่านประสาทหูเทียมหลังจากการผ่าตัด เพราะจะไม่เหมือนการได้ยินโดยธรรมชาติ

 

เพราะการได้ยินสำคัญกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นเพลงโปรด เสียงกระซิบจากบุคคลที่รัก เสียงเตือนเพื่อความปลอดภัย พัฒนาการด้านภาษาและการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือเสียงสายลมอ่อนๆ ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อไม่ให้เสียงเหล่านี้ต้องดับไปก่อนร่างกายจะร่วงโรย อย่าลืมดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ และตรวจสุขภาพการได้ยินเป็นประจำทุกปี หากมีอาการที่สงสัยว่าจะส่งผลต่อการได้ยินในอนาคต สามารถเข้ามาทดสอบการได้ยิน พร้อมรับคำวินิจฉัยและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยิน (Audiologist) ได้ที่ ศูนย์การได้ยิน เดียร์ (Dear Hearing) โซน Beauty & Wellness ชั้น 3 ศูนย์การค้า Paradise Park ศูนย์ทดสอบการได้ยินใกล้บ้านย่านศรีนครินทร์ ใกล้ MRT สายสีเหลือง สถานีสวนหลวง ร. 9

 

 

ดูแลสุขภาพพร้อมความสะสมทุกความคุ้มค่าด้วย MBK PLUS

ตรวจสุขภาพหูและการได้ยินไปแล้วก็ถึงเวลาเปลี่ยนแต้มเป็นความสุขที่คุณพลาดไม่ได้ ศูนย์การค้า Paradise Park ขอแนะนำ MBK PLUS โปรแกรมสะสมคะแนนสุดพิเศษที่จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นจากทุกการใช้จ่ายของคุณ เพียงนำใบเสร็จจากร้านค้าภายในศูนย์การค้า Paradise Park หรือธุรกิจในเครื่อ MBK ที่ร่วมรายการมาสะสมคะแนน แล้วนำคะแนนมาแลกรับส่วนลด คูปอง หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ได้มากมาย

  • สะสม สุขจุกๆ: ทุกการช้อปมีแต่ได้ สะสมพอยท์เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมายแบบจุกๆ

  • แลก สุขจุกๆ: ง่ายขึ้น 1 พอยท์ = 1 บาท แลกรับส่วนลดจุกๆ และความพิเศษทุกไลฟ์สไตล์

  • แชร์ สุขจุกๆ: โอนคะแนนให้เพื่อน แชร์พอยท์ รวมทั้งชวนเพื่อน มาส่งต่อความสุขด้วยกันไม่รู้จบ

สมัคร MBK PLUS ง่ายๆ เพียง Add LINE OA: @mbkplus หรือ คลิก https://lin.ee/D5FyX9j

ตรวจสอบเงื่อนไขการสะสมคะแนนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.paradisepark.co.th/mbkplus.php

 

อ้างอิง

  • https://www.dear.co.th/hearing-knowledge/หูตึงคือ/

  • https://www.dear.co.th/hearing-knowledge/ผลกระทบการได้ยิน/

  • https://www.dear.co.th/hearing-knowledge/การเลือกเครื่องช่วยฟัง/

  • https://www.dear.co.th/hearing-knowledge/ถาม-ตอบ-เกี่ยวกับ-โรคประ/

  • https://www.dear.co.th/hearing-knowledge/5-เหตุผลตรวจการได้ยิน/