เพราะอายุที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่เพิ่มตาม แต่ยังหมายถึงร่างกายที่เสื่อมลงไปตามวัยจากการทำงาน การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด อาหารที่กินเข้าไป ตลอดจนโรคประจำตัวด้วย การดูแลตัวเองให้ร่างกายแก่ชราช้าลงตามหลัก Anti-Aging และ Regenerative หรือเวชศาสตร์ชะลอวัย เป็นการดูแลตัวเองแนวใหม่ที่เน้นใส่ใจสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อสมดุลที่ดีจากภายใน หากอยากรู้ว่า เวชศาสตร์ชะลอวัยคืออะไร วิธีชะลอวัยทำอย่างไร มีหลักการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
ประโยชน์ของการดูแลสุขภาพตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัย
เวชศาสตร์ชะลอวัยไม่ใช่การดูแลผิวพรรณไม่ให้หย่อนคล้อยหรือเหี่ยวย่นตามที่หลายคนเข้าใจ แต่เวชศาสตร์ชะลอวัย คือ ศาสตร์ทางการแพทย์ที่เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เริ่มจากการตรวจร่างกายเพื่อค้นหาความผิดปกติในระดับโมเลกุล ตลอดจนดูค่าต่างๆ ในร่างกายว่ามีสิ่งใดที่ต่ำหรือสูงเกินไปหรือไม่ เพื่อจะได้ให้คำแนะนำในด้านอาหาร การพักผ่อน การออกกำลังกาย ตลอดจนการเสริมการรักษาด้วยวิตามิน ยา ฮอร์โมน หรือการรักษาด้านอื่นๆ เช่น การนวด การฝังเข็ม เพื่อให้เหมาะกับบุคคลนั้นๆ โดยประโยชน์ของการชะลอวัย มีดังนี้
สุขภาพสมดุลแข็งแรงจากภายใน
ประโยชน์ของการชะลอวัยคือการได้ดูแลตัวเองให้มีสุขภาพดีเป็นพื้นฐานโดยมุ่งเน้นชะลอความเสื่อมของร่างกายอันเกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นของเสียจากการสันดาปของร่างกายที่ควรกำจัดออกไป การสะสมของน้ำตาลในร่างกาย การอักเสบเรื้อรัง และภาวะพร่องฮอร์โมนบางชนิดที่ทำให้ร่างกายเสียสมดุล
แก้ปัญหาร่างกายได้ตรงจุด
นอกจากจะดูแลพื้นฐานสุขภาพแล้ว การตรวจร่างกายระดับโมเลกุลตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัยยังช่วยให้รู้ว่าควรวางแผนการรักษาที่จุดไหนเป็นพิเศษ และมีจุดไหนที่ต้องระวัง เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงด้านลบหากดูแลไม่ตรงกับความจำเป็น
ป้องกันโรคเรื้อรัง
การมีสมดุลร่างกายที่ดีจะช่วยลดการอักเสบของร่างกาย และช่วยให้มีภูมิต้านทานต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ การซ่อมแซมร่างกายจากภายในยังช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเรื้อรังที่ทำให้คนเราทรมานเป็นเวลานานและรักษาไม่หายขาดอีกด้วย
ช่วยชะลอความชราและความเสื่อมของร่างกาย
คนที่อายุเท่ากันแต่ดูแลตัวเองต่างกันจะเห็นความแตกต่างชัดเจนตั้งแต่ผิวพรรณไปจนถึงความแข็งแรงเวลาเคลื่อนไหวร่างกาย ยิ่งเริ่มดูแลตัวเองด้วยวิธีชะลอวัยเร็วเท่าไหร่ ความชราและความเสื่อมของกล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ ก็จะมาเยือนช้าลง
ป้องกันการใช้อาหารเสริมเกินความจำเป็น
บางครั้ง คนเราประโคมสารพัดอาหารเสริมหรือยาต่างๆ เพราะหวังผลลัพธ์ตามคำโฆษณา แต่หากใช้มากไปอาจได้โทษแทนประโยชน์ เพราะเกิดการสะสมและตกค้างของสารเคมีในร่างกายได้ การดูแลตัวเองด้วยเวชศาสตร์ชะลอวัยจึงเป็นเหมือนไกด์ที่คอยชี้แนะว่าร่างกายของแต่ละคนต้องเพิ่มหรือลดอะไรจึงจะไม่ทำร้ายสุขภาพ
4 วิธีชะลอวัยตามหลัก Anti-aging and Regenerative
1. ตรวจสุขภาพ
อันดับแรกเลย ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งจะช่วยดูความผิดปกติและความเสี่ยงของโรคต่างๆ ภายในร่างกาย ก่อนที่แพทย์หรือนักเวชศาสตร์ชะลอวัยจะให้คำแนะนำในการดูแลตนเองและการรักษาเฉพาะจุดต่อไป โดยสามารถเริ่มตรวจได้เลย ทุกเพศ ทุกวัย หรือเน้นเป็นพิเศษตั้งแต่อายุ 30-40 ปีขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงและได้รับผลกระทบทั้งจากฮอร์โมนในร่างกายและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
นอกจากนี้ ยังควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี เพื่ออัปเดตสภาพร่างกายและปรับการใช้ชีวิตให้เหมาะสม ร่วมกับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อดูแลเฉพาะจุดเมื่อต้องการทราบความเสี่ยง หรือเมื่อรู้สึกว่าสุขภาพไม่ดี แต่รักษาไม่หายสักที และต้องการหาสาเหตุที่แท้จริง
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยให้คุณรู้ความเสี่ยงของร่างกายได้ผ่านการตรวจร่างกายที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน เช่น
-
เครื่อง Dexa Scan เป็นเทคโนโลยีการตรวจไขมัน กล้ามเนื้อ และความหนาแน่นของมวลกระดูกที่ใช้รังสีเอกซ์ในพลังงานต่ำ จึงหมดกังวลเรื่องการได้รับรังสีมากเกินไปขณะตรวจร่างกาย โดยจะตรวจบริเวณที่มีโอกาสพบภาวะกระดูกพรุนบ่อยๆ ก่อน ได้แก่ กระดูกสันหลัง ข้อมือ และสะโพก
-
เครื่อง Electro Interstitial Scan เป็นเทคโนโลยีจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่สามารถตรวจเช็กความเสี่ยงโรคเพื่อให้รู้ทันและป้องกันก่อนเกิด เช่น ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบการหายใจ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายและระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาทและสมอง เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้สนใจได้รับผลการตรวจครอบคลุมทุกระบบสำคัญภายในการตรวจครั้งเดียว ช่วยประหยัดเวลาและสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างต่อเนื่องและทันท่วงที
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารชะลอวัยที่จะช่วยเพิ่มสมดุลของร่างกายและป้องกันความเสี่ยงนั้นควรเป็นอาหารที่ให้ปริมาณโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันในปริมาณที่เหมาะสมกับช่วงวัย น้ำหนักตัว และกิจกรรมหรือชนิดกีฬาที่เล่น รวมถึงควรสร้างสมดุลและบำรุงระบบภูมิคุ้มกันด้วยผัก ผลไม้ ซึ่งมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ตลอดจนสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยป้องกันสาเหตุของโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น มะเร็ง อาหารชะลอวัยที่สำคัญและควรจดไว้เพิ่มในมื้อถัดไปเลย ตัวอย่างเช่น
-
อาหารที่มีโปรตีนที่ดี เช่น ไข่ไก่ ถั่ว ธัญพืช
-
อาหารที่มีไขมันดี เช่น โอเมก้า 3 จากปลาทะเล
-
อาหารที่มีพรีไบโอติกส์สูง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดีในร่างกาย (โพรไบโอติกส์) เช่น หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม หัวหอม
-
อาหารที่มีคอลลาเจนสูง เช่น น้ำซุปกระดูกสัตว์อย่างปลา หมู เนื้อ หรือไก่ เนื้อปลา ไข่ขาว กระเทียม
-
อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ เช่น ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงอย่างผลไม้ตระกูลส้ม เบอร์รี มะเขือเทศ มะนาว บร็อคโคลี และอาหารที่ประกอบไปด้วยสมุนไพรจำพวกขมิ้นชัน มะขามป้อม
3. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเพื่อชะลอวัยควรออกกำลังกายควบคู่กันทั้งแบบ “คาร์ดิโอ” ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน แบดมันตัน และ “เวทเทรนนิ่ง” ซึ่งเป็นการออกกำลังกายเพื่อเน้นเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เช่น การยกน้ำหนัก การทำบอดี้เวทเพื่อสร้างแรงต้านให้ร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ควรออกกำลังกายให้เหมาะกับสภาพร่างกายและอายุ เช่น ผู้ที่อายุมากแล้ว หรือตรวจพบว่าข้อเข่าไม่ดี อาจต้องเลือกการคาร์ดิโอที่ไม่ต้องใช้แรงกระแทกจากเข่าเยอะ เช่น การว่ายน้ำ และอย่าลืมหาเวลาออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกายและข้อต่อต่างๆ ด้วย เช่น โยคะ
นอกจากนั้นแล้ว สำหรับบางคน แพทย์หรือนักเวชศาสตร์ชะลอวัยอาจแนะนำให้ทำกายภาพบำบัดเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเสริมสร้างสมรรถภาพให้กับร่างกาย
4. รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญอย่างตรงจุด
เติมสารอาหารที่ขาดและรับการดูแลอย่างตรงจุดตามปัญหาที่พบ เพื่อหลีกเลี่ยงการกินวิตามินหรืออาหารเสริมที่ไม่จำเป็นด้วยการเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางจากคลินิกชะลอวัย ซึ่งนอกจากคำวินิจฉัยและคำแนะนำแล้ว ทางผู้เชี่ยวชาญยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีชะลอวัยแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือตรวจความผิดปกติ โปรแกรมอาหารเสริมและการออกกำลังกาย การคำนวณโภชนาการที่เหมาะสม การเติมวิตามินทางหลอดเลือด และเทคโนโลยีการรักษาขั้นสูง เช่น การผ่าตัด การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด เป็นต้น
หากสุขภาพดี คุณก็พร้อมออกไปทำตามเป้าหมายชีวิตได้อย่างเต็มที่กับสมรรถภาพที่เต็มร้อย นอกจากการดูแลขั้นพื้นฐานอย่างการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว สามารถเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมตรวจร่างกายเพื่อหาความเสี่ยงของโรคต่างๆ พร้อมฟื้นฟูความเสื่อมด้วยการเติม NAD+ IV THERAPY ได้ที่คลินิกชะลอวัยใกล้บ้านคุณอย่าง APEX Wellness หรือออกแบบการดูแลตนเองอย่างเหมาะสมโดยแพทย์ นักกายภาพบำบัด และนักโภชนาการมืออาชีพตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัยได้ที่ S’RENE by SLC โซน Beauty & Wellness ชั้น 3 ศูนย์การค้า Paradise Park
สุขจุกๆ ด้วยสิทธิประโยชน์อัดแน่นผ่าน MBK PLUS
ทุกครั้งที่แวะเข้ามาตรวจสุขภาพและดูแลตัวเองผ่านโปรแกรมเวชศาสตร์ชะลอวัย อย่าลืมเปลี่ยนค่าสินค้าและบริการให้กลายเป็นแต้มสะสมสุดคุ้มกับ MBK PLUS โปรแกรมสะสมคะแนนสุดพิเศษเพื่อลูกค้า Paradisde Park และธุรกิจในเครือ MBK เท่านั้น สะสมง่ายๆ เพียงนำใบเสร็จจากร้านค้าที่ร่วมรายการมาสะสมคะแนน แล้วนำคะแนนมาแลกรับส่วนลด คูปอง หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ได้มากมาย
-
# สะสม สุขจุกๆ: ทุกการช้อปมีแต่ได้ สะสมพอยท์เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมายแบบจุกๆ
-
# แลก สุขจุกๆ: ง่ายขึ้น 1 พอยท์ = 1 บาท แลกรับส่วนลดจุกๆ และความพิเศษทุกไลฟ์สไตล์
-
# แชร์ สุขจุกๆ: โอนคะแนนให้เพื่อน แชร์พอยท์ รวมทั้งชวนเพื่อน มาส่งต่อความสุขด้วยกันไม่รู้จบ
สมัคร MBK PLUS ง่ายๆ เพียง Add LINE OA: @mbkplus หรือ คลิก https://lin.ee/D5FyX9j
ตรวจสอบเงื่อนไขการสะสมคะแนนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.paradisepark.co.th/mbkplus.php
อ้างอิง
-
https://www.synphaet.co.th/how-to-ดูแลร่างกาย-สไตล์เวชศา/
-
https://www.nakornthon.com/article/detail/แนะเทคนิคการดูแลตัวเองง่ายๆในแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย
-
https://www.chularat3inter.com/th/contents/3-balanced-tips-for-slowing-down-aging
-
http://radiology.md.chula.ac.th/nuclearmedicine/?page_id=24
-
https://www.facebook.com/apexmedicalwellness/posts/767400478201778/
-
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/food/1029698#google_vignette