มือใหม่ต้องรู้! 3 เทคนิคซื้ออุปกรณ์เบเกอรี่แบบครบจบในครั้งเดียว

  •  31 ต.ค. 67

การทำขนม หรือ เมนูเบเกอรี่ ไม่เพียงแต่เป็นศิลปะที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังต้องใช้อุปกรณ์ทำขนมที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้ การเลือกอุปกรณ์เบเกอรี่จึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่นักอบขนมมือใหม่ทุกคนไม่ควรมองข้าม

หากรู้ตัวว่าเป็นปาตีซีเยมือใหม่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้ออุปกรณ์เบเกอรี่อย่างไรให้ตอบโจทย์ งบไม่บานปลาย และได้เครื่องมือทำเบเกอรี่ที่ตรงกับความต้องการ ลองมาปูพื้นฐานกับ 3 เทคนิคซื้ออุปกรณ์เบเกอรี่พื้นฐานง่ายๆ ที่นำมาฝากในบทความนี้กัน
 

เทคนิคที่ 1: รู้จักอุปกรณ์เบเกอรี่ให้ครบ

การเลือกซื้ออุปกรณ์ทำขนมให้ตอบโจทย์ตั้งแต่ครั้งแรก ต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจก่อนว่า อุปกรณ์เบเกอรี่มีด้วยกันกี่ประเภท และเครื่องมือเบเกอรี่แต่ละชนิดมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์เบเกอรี่พื้นฐานที่มือใหม่ต้องรู้จักจะแบ่งได้ 6 ประเภท ดังนี้
 

1. เครื่องใช้ประเภทชั่ง ตวง

  • เครื่องมือชั่ง เช่น ตาชั่งดิจิทัล ที่จะช่วยวัดส่วนผสมอย่างแม่นยำ

  • ถ้วยตวงหลายขนาด เช่น ¼, ⅓, ½, และ 1 ถ้วย

  • ช้อนตวง สำหรับวัดส่วนผสมเล็กน้อย มีหลายขนาดในชุดเดียวกัน

2. เครื่องใช้ประเภทเตรียมและผสม

  • เครื่องผสมอาหาร มีทั้งแบบมือถือและแบบตั้งโต๊ะ ใช้ในการตีไข่ ผสมแป้ง และส่วนผสมต่างๆ

  • ชามผสม ใช้สำหรับเตรียมและผสมส่วนผสมต่างๆ

  • ตะกร้อมือ ใช้สำหรับผสมส่วนผสมอย่างง่าย

3. เครื่องใช้ประเภทอบ

  • เตาอบ เป็นหัวใจหลักในการทำขนมอบ มีหลายประเภท เช่น เตาอบไฟฟ้า เตาอบแก๊ส และเตาอบลมร้อน

  • แม่พิมพ์ สำหรับทำเค้ก ขนมปัง หรือ คุกกี้ มีหลายรูปแบบตามความต้องการ

4. เครื่องมือทำเบเกอรี่ขนาดใหญ่

  • เครื่องผสมแป้ง (Mixers) เช่น Spiral Mixers ที่เหมาะสำหรับการผลิตแป้งจำนวนมาก และ Planetary Mixers ที่ใช้ในการผลิตขนมหวาน เค้ก และพิซซ่า

  • เครื่องแบ่งแป้ง (Dough Dividers) เช่น Hydraulic Dough Divider ที่ช่วยแบ่งแป้งออกเป็นชิ้นๆ อย่างแม่นยำ และ Volumetric Dough Divider ที่ใช้ระบบลูกสูบในการแบ่งแป้ง

  • เครื่องขึ้นรูป (Moulders) เช่น Long Loaf Moulders สำหรับขึ้นรูปขนมปังยาว 

5. อุปกรณ์เซฟตี้

  • ถุงมือ ป้องกันการบาดเจ็บจากการสัมผัสกับวัตถุดิบหรือเครื่องมือที่มีความร้อน

  • ผ้ากันเปื้อน ช่วยป้องกันเสื้อผ้าจากคราบสกปรก

  • ผ้าเช็ดมือ ใช้สำหรับเช็ดมือและพื้นที่ทำงาน เพื่อรักษาความสะอาด

6. วัตถุดิบสำหรับการทำเบเกอรี่

  • แป้ง (Flour) มีด้วยกันหลายประเภท ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามเมนูที่ต้องการ

    • แป้งขนมปัง (Bread Flour) ผลิตจากข้าวสาลีชนิดหนัก มีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับการทำขนมที่ต้องการความเหนียวและยืดหยุ่น เช่น ขนมปังและโดนัท

    • แป้งอเนกประสงค์ (All-Purpose Flour) ผลิตจากการผสมระหว่างข้าวสาลีชนิดหนักและเบา สามารถใช้ทำผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น คุกกี้ บิสกิต และซาลาเปา

    • แป้งเค้ก (Cake Flour) ผลิตจากข้าวสาลีชนิดเบา มีเนื้อแป้งละเอียด เหมาะสำหรับทำเค้กที่มีเนื้อเบาและฟู

  • น้ำตาล (Sugar) ช่วยให้ขนมมีรสชาติหวานและสีสวยงาม น้ำตาลที่ใช้ในเบเกอรี่มักแบ่งออกเป็นหลายประเภท ได้แก่:

    • น้ำตาลทราย (Granulated Sugar) น้ำตาลเม็ดเล็กที่เหมาะสำหรับการตีเค้ก

    • น้ำตาลไอซิ่ง (Icing Sugar) น้ำตาลทรายป่นผสมแป้งข้าวโพด ใช้ในการตีครีมหรือทำคุกกี้

    • น้ำตาลทรายแดง (Brown Sugar) ใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการกลิ่นหอมและสีเข้ม เช่น คุกกี้ หรือ เค้กเพื่อสุขภาพ

  • ไข่ (Eggs) ช่วยให้เพิ่มความชุ่มชื้นและโครงสร้างให้กับขนม ควรใช้ไข่ที่สดใหม่และฟองโต เพื่อรสสัมผัสของขนมที่มีคุณภาพ

  • ไขมัน (Fat) ช่วยให้เนื้อขนมนุ่มและเพิ่มรสชาติ มีด้วยกัน 4 ประเภทหลัก

    • เนยสด (Butter) ให้กลิ่นหอมและรสชาติที่ดี ใช้ในการทำเค้ก คุกกี้ และพาย

    • เนยขาว (Shortening) ใช้สำหรับตีครีมหรือผสมในส่วนผสมที่ต้องการตีให้ขึ้นฟู

    • มาร์การีน (Margarine) ได้จากการผสมไขมันพืชและสัตว์ มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับเนยสด

    • น้ำมันพืช (Oil) เช่น น้ำมันคาโนลา หรือ น้ำมันดอกทานตะวัน  มักใช้ในการทำขนมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

  • สารช่วยฟู (Leavening Agents) ช่วยให้ขนมขึ้นฟูและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม

    • ยีสต์ (Yeast) ทำให้เกิดฟองอากาศในขนม เช่น ขนมปังและโดนัท

    • ผงฟู (Baking Powder) ช่วยให้ขนมขึ้นฟูอย่างรวดเร็ว โดยมีส่วนผสมของกรดและเบส

    • โซเดียมไบคาร์บอเนต (Baking Soda) ใช้ในการอบเพื่อช่วยให้เกิดฟองอากาศ แต่ต้องใช้ตามสูตรเพื่อไม่ให้มีรสเฝื่อน

  • สารปรุงแต่งอื่นๆ เช่น วานิลลา หรือ อบเชย ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับขนม นอกจากนี้ ยังมีสีผสมอาหารและกลิ่นสังเคราะห์ที่ช่วยเพิ่มรสสัมผัสอื่นๆ ให้กับขนม


เทคนิคที่ 2: รู้จัก 5 วิธีเลือกอุปกรณ์เบเกอรี่ที่เหมาะสม

หลังจากที่รู้จักอุปกรณ์เบเกอรี่พื้นฐานครบทั้งหมดแล้ว ก่อนจะไปดูว่าควรจะซื้ออุปกรณ์เบเกอรี่ที่ไหนดี ลองมาดู 5 วิธีเลือกอุปกรณ์เบเกอรี่ที่จะช่วยให้ปาตีซีเยมือใหม่เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการกัน

1. เมนูเบเกอรี่ที่ต้องการ

อุปกรณ์ทำขนมแต่ละชนิด มาพร้อมกับฟังก์ชันที่แตกต่างกัน ทำให้เหมาะสำหรับเมนูขนมและเบเกอรี่ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนที่จะไปเลือกซื้ออุปกรณ์เบเกอรี่ตามร้านค้าชั้นนำ อย่าลืมลิสต์เมนูขนมและเบเกอรี่ที่ต้องการก่อนทุกครั้ง เพื่อช่วยให้เลือกซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสมและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น

2. งบประมาณ

หลังจากกำหนดเมนูได้แล้ว ทีนี้ลองมาวางแผนเรื่องงบประมาณสำหรับการซื้ออุปกรณ์กัน ขอแนะนำว่าให้เริ่มกำหนดงบประมาณจากอุปกรณ์เบเกอรี่พื้นฐานก่อน จากนั้นจึงมาพิจารณาถึงวัตถุดิบทำขนม และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ตามมา

3. ฟังก์ชันการใช้งาน

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า อุปกรณ์เบเกอรี่ที่ต้องการมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงกับความต้องการ เมนูที่อยากทำ ความจำเป็น ไปจนถึงงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ เท่านี้ก็ช่วยให้มือใหม่สามารถเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมได้ง่ายๆ แล้ว

4. คุณภาพวัสดุ

ควรเลือกซื้ออุปกรณ์ทำขนมที่ทำจากวัสดุทนทาน ปลอดภัยต่อสุขภาพ ทนความร้อน และไร้สารตกค้าง เช่น เลือกใช้อุปกรณ์จากสเตนเลส หรือ ซิลิโคน เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ทั้งยังสามารถใช้งานได้ยาวนาน และปลอดภัยต่อสุขภาพด้วย

5. ความน่าเชื่อถือของร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่

ความน่าเชื่อถือของผู้ขายอุปกรณ์เบเกอรี่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้มั่นใจว่าจะได้อุปกรณ์ทำขนมที่มีคุณภาพมาใช้งานเท่านั้น แต่ยังช่วยให้มั่นใจถึงความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ที่ต้องนำเข้าเตาอบ หรือ อุปกรณ์ผสมที่มีการสัมผัสกับขนมโดยตรง

 

เทคนิคที่ 3: รู้จักวิธีทำความสะอาดและเก็บรักษาอุปกรณ์เบเกอรี่ที่ถูกต้อง

การดูแลรักษาอุปกรณ์ทำขนมที่ถูกต้องสามารถช่วยยืดอายุการใช้งาน ตลอดจนช่วยรักษาคุณภาพของเครื่องมือเอาไว้ได้ 

โดยหลังจากใช้งานอุปกรณ์เบเกอรี่เสร็จแล้ว ควรทำความสะอาดด้วยฟองน้ำสะอาดและสบู่อ่อน และหลีกเลี่ยงการใช้งานสารเคมีรุนแรงที่สามารถทำลายพื้นผิวของวัสดุได้ โดยเฉพาะเครื่องมือที่สัมผัสกับวัตถุดิบและขนมโดยตรง เช่น ชามผสม เครื่องผสม ไปจนถึงแม่พิมพ์ต่างๆ

เมื่อทำความสะอาดและตากอุปกรณ์ให้แห้งสนิทแล้ว ควรเก็บเครื่องมือทำเบเกอรี่ในสถานที่แห้งและเย็น ตลอดจนหลีกเลี่ยงการจัดเก็บในพื้นที่ชื้นหรือร้อนจัด เนื่องจากอาจส่งผลต่อคุณภาพของอุปกรณ์ในระยะยาว นอกจากนี้ ยังควรแยกจัดเก็บเครื่องมือแต่ละประเภทเพื่อให้ง่ายต่อการนำมาใช้งานในภายหลังด้วย

 

ซื้ออุปกรณ์เบเกอรี่ที่ไหนก็ไม่ตอบโจทย์เท่า ALLFORBAKING!

ALLFORBAKING พร้อมแล้วที่จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของเบเกอรี่ได้อย่างที่ตั้งใจ ด้วยอุปกรณ์และวัตถุดิบที่ครบครัน มาพร้อมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเรื่องการเลือกอุปกรณ์ทำขนมอย่างใกล้ชิด ให้คุณได้เลือกอุปกรณ์เบเกอรี่พื้นฐานที่เหมาะสำหรับมือใหม่ แถมยังต่อยอดสู่โอกาสธุรกิจได้

พิเศษ! เมื่อซื้ออุปกรณ์เบเกอรี่ที่ ALLFORBAKING สาขาศูนย์การค้า Paradise Park พร้อมรับคะแนนสะสมสุดพิเศษผ่าน MBK PLUS ที่คุณยังสามารถนำคะแนนมาแลกเป็นสิทธิพิเศษ ส่วนลด และคูปองต่างๆ ได้อีกมากมาย สมัคร MBK PLUS ง่ายๆ เพียง Add LINE OA: @mbkplus หรือ คลิก https://lin.ee/D5FyX9j 

หรือหากใครฝึกฝีมือจนชำนาญแล้ว ยังสามารถเลือกจับจองทำเลในตลาดเสรีมาร์เก็ต สาขา Paradise Park เพื่อสร้างโอกาสจากเบเกอรี่และเมนูขนมแสนอร่อยได้เช่นกัน

 

อ้างอิง:

  • https://www.bluecart.com/blog/bakery-equipment-list

  • https://www.sweetscottage.com/post/firsttime

  • Photo by tabitha turner on Unsplash