การไปเรียนต่อต่างประเทศเหมือนจะเป็นเรื่องยาก แต่บอกเลยว่าหากเราหาข้อมูลดี ๆ และเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ การไปเรียนต่อประเทศที่ฝันไว้นั้นไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน! สำหรับใครที่มีฝันอยากไปเรียนต่อไม่ว่าจะที่ยุโรปหรือที่สหรัฐอเมริกา แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเตรียมตัวอย่างไรดี? วันนี้เราได้เตรียมเช็กลิสต์สิ่งที่ต้องรู้สำหรับการเตรียมตัวเรียนต่อต่างประเทศมาฝากแล้ว ตามมาดูกันเลย!
-
เลือกประเทศเรียนต่ออย่างไร?
การเลือกเรียนต่อต่างประเทศนั้น สิ่งแรก ๆ ที่จะต้องคำนึงถึงก็คือ ‘ประเทศ’ ที่อยากศึกษาต่อนั่นเอง เพราะแต่ละประเทศแต่ละเมืองที่เราจะต้องไปอยู่นั้นมีค่าครองชีพที่แตกต่างกันไป ซึ่งบางประเทศสามารถหางานทำระหว่างเรียนได้ แต่บางประเทศก็ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่านักเรียนทำงาน ดังนั้น จึงต้องดูว่าประเทศที่อยากไปนั้นเหมาะสมกับงบประมาณที่มีหรือไม่ นอกจากนี้ สภาพภูมิอากาศ สังคม และวัฒนธรรมก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน
-
หลักสูตรที่อยากเรียน
ข้อนี้ถือว่าสำคัญที่สุดสำหรับคนที่อยากเรียนต่อต่างประเทศโดยการเลือกหลักสูตรที่สนใจนั้นอาจจะพิจารณาจากหลักสูตรที่ตรงกับความสนใจและเป้าหมายในอาชีพในอนาคตของเรามากที่สุด นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและโอกาสในการทำงานหลังเรียนจบด้วย ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยจะระบุวุฒิการศึกษาที่ต้องการหรือกำหนดระดับผลการเรียนเฉลี่ยไว้ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเตรียมตัวได้พร้อมก่อนสมัครเรียน
-
ระบบการศึกษา
การเรียนต่อต่างประเทศแต่ละมหาวิทยาลัยแต่ละประเทศนั้นจะมีกำหนดระยะเวลาในการเรียนที่แตกต่างกันออกไป เช่น การเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริการส่วนใหญ่จะใช้เวลาเรียน 2 ปี ส่วนการเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษส่วนใหญ่จะใช้เวลาเพียง 1 ปี ดังนั้น เรื่องระบบการศึกษาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องรู้ไว้ เพื่อให้สามารถคุมรายจ่ายและกำหนดงบประมาณสำหรับการศึกษาต่อคร่าว ๆ ได้
-
ค่าใช้จ่าย
นอกจากค่าใช้จ่ายของแต่ละหลักสูตรแล้ว การคำนึงถึงค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายในแต่ละวันก็จำเป็นเช่นกัน เพราะแต่ละประเทศแต่ละเมืองมีค่าครองชีพที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องหาข้อมูลเพื่อดูว่าการไปเรียนต่อต่างประเทศครั้งนี้จำเป็นต้องใช้เงินเท่าไหร่ โดยงบที่ตั้งไว้จะต้องคำนวณทั้งค่าสมัคร ค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก และค่าครองชีพของประเทศนั้น ๆ ซึ่งค่าครองชีพควรตั้งไว้ประมาณ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน
-
ขั้นตอนการสมัครเรียนต่อ
เมื่อตัดสินใจได้เรียบร้อยแล้วว่าอยากเรียนต่อต่างประเทศที่ไหน ขั้นตอนต่อไปคือการยื่นสมัครเรียน โดยปัจจุบันสามารถกรอกใบสมัครได้ผ่านทางระบบออนไลน์ของทางมหาวิทยาลัยได้โดยตรง ซึ่งสำหรับประเทศอังกฤษส่วนใหญ่จะเปิดรับสมัครในเดือนกันยายน 1 ปีล่วงหน้าก่อนปีที่เราจะไปเรียน ส่วนสหรัฐอเมริกาจะส่วนใหญ่จะเปิดรับสมัครในเดือนพฤศจิกายน 1 ปีล่วงหน้าก่อนเปิดภาคเรียน
-
การขอทุนการศึกษา
สำหรับใครที่สนใจอยากขอทุนเรียนต่อต่างประเทศ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยชั้นนำหลาย ๆ แห่ง มีทุนที่น่าสนใจต่าง ๆ มากมายทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญาเอกหลาย ๆ สาขา ซึ่งทุนที่น่าสนใจเช่น ทุน Erasmus Mundus ของโครงการสหภาพยุโรป ทุน Fulbright Scholarship หรือทุนให้เปล่าจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยสามารถค้นหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ Dek-D หรือ กลุ่ม "ทุนเรียนต่อต่างประเทศ" ในเฟสบุ๊ก
-
การใช้ชีวิตในต่างประเทศ
การไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นแน่นอนว่าจะช่วยให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือภาษาและวัฒนธรรม ดังนั้น ก่อนไปจึงควรศึกษาวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิสัยของผู้คน หรืออาหารการกิน เพื่อให้การใช้ชีวิตของเราที่นั่นราบรื่นและสามารถปรับตัวได้ไม่ยาก
เตรียมตัวเรียนต่อต่างประเทศอย่างไรไม่ให้พลาด?
เรียนต่างประเทศทำงานงานได้มั้ย?
เรียนต่อต่างประเทศและทำงานไปด้วยในแต่ละที่นั้นมีกฎที่ไม่เหมือนกัน เช่น สำหรับประเทศออสเตรเลีย ช่วงระหว่างเปิดเรียน นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้ 48 ชั่วโมง ต่อ 2 สัปดาห์ สำหรับประเทศอังกฤษ นักเรียนที่เรียนหลักสูตร Full-timeในสถาบันที่ทางรัฐรับรอง สามารถทำงานได้ 20 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ในระหว่างเปิดภาคเรียน ดังนั้น จึงต้องหาข้อมูลให้ชัวร์ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะไม่ทำผิดกฎและอาจเป็นปัญหาตามมาในภายหลัง
อยากได้ Host ระหว่างเรียนต้องทำอย่างไร?
การหา Host Family ส่วนใหญ่แล้วแล้วจะเป็นการเรียนแลกเปลี่ยนหรือเรียนซัมเมอร์ระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ซึ่งสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาส่วนใหญ่นักเรียนจะต้องหาที่พักเอง อย่างไรก็ตาม หากได้รับการตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยแล้ว สามารถติดต่อ International Student Office เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่พักได้
คณะ/สาขา ที่นิยมไปเรียนต่อต่างประเทศมากที่สุด
สำหรับคณะยอดฮิตของเด็กที่เลือกไปเรียนต่อต่างประเทศคงจะหนีไม่พ้น คณะบริหารธุรกิจ (Business Administration), คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Engineering), คณะศิลปกรรมและการออกแบบ (Art and Design), คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (Computer Science) และคณะรัฐศาสตร์ (Politics) ส่วนประเทศที่คนนิยมไปเรียนในระดับปริญญาตรี คือ ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และแคนาดา
อย่างไรก็ตาม การเลือกเรียนต่อต่างประเทศควรเลือกเรียนสาขาที่เราสนใจและมีโอกาสในการทำงานหลังจบการศึกษาเพื่อให้การลงทุนเรียนต่อของเราครั้งนี้ไม่เสียเปล่า
สำหรับใครที่มีความสนใจอยากเรียนต่อต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรปริญญาตรีหรือปริญญาโท แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นเตรียมตัวอย่างไรดี? สามารถติดต่อ Education and Development Experts ที่ปรึกษาด้านการศึกษาส่งนักเรียนไปแลกเปลี่ยนศึกษาต่อยังต่างประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค เพื่อสอบถามข้อมูลเพื่อให้พี่ ๆ แนะนำคอร์สเรียนและมหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์ของน้องๆ ได้
MBK PLUS: สิทธิพิเศษที่มากกว่าสำหรับคุณ
นอกเหนือจากการเตรียมตัวเรียนต่อต่างประเทศแล้วนั้น เมื่อใช้บริการที่ศูนย์การค้า Paradise Park อย่าลืมโปรแกรมสะสมคะแนนอย่าง MBK PLUS ตัวช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นจากทุกการใช้จ่าย
MBK PLUS คืออะไร?
MBK PLUS คือโปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการภายในศูนย์การค้า Paradise Park และธุรกิจในเครือ MBK เพียงนำใบเสร็จจากร้านค้าที่ร่วมรายการมาสะสมคะแนน แล้วนำคะแนนมาแลกรับส่วนลด คูปอง หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ได้มากมาย
# สะสม สุขจุกๆ: ทุกการช้อปมีแต่ได้ สะสมพอยท์เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมายแบบจุกๆ
# แลก สุขจุกๆ: ง่ายขึ้น 1 พอยท์ = 1 บาท แลกรับส่วนลดจุกๆ และความพิเศษทุกไลฟ์สไตล์
# แชร์ สุขจุกๆ: โอนคะแนนให้เพื่อน แชร์พอยท์ รวมทั้งชวนเพื่อน มาส่งต่อความสุขด้วยกันไม่รู้จบ
สมัคร MBK PLUS ง่ายๆ เพียง Add LINE OA: @mbkplus หรือ คลิก https://lin.ee/D5FyX9j
ตรวจสอบเงื่อนไขการสะสมคะแนนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.paradisepark.co.th/mbkplus.php
อ้างอิง
-
https://www.dek-d.com/studyabroad/scholarship/
-
https://interpass.in.th/study-abroad-preparation/
-
https://www.stamford.edu/th/studying-abroad/
-
Photo by Alexis Brown on Unsplash