How-to เลือกสูท ผู้ชาย ยังไงให้หล่อเป๊ะสไตล์ผู้ดีเก่า!

  •  25 ธ.ค. 67

สำหรับคุณหนุ่ม ๆ แล้ว การเลือกสูทผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นสูททำงาน หรือสูทใส่ออกงานอาจจะดูเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว เพราะเสื้อสูทนั้นมีดีเทลยิบย่อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขนาด ความยาวของเสื้อ หรือแม้แต่เนื้อผ้าที่ต้องเลือกให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน แต่ปัญหาวุ่น ๆ เรื่องสูทจะหมดไป เพราะวันนี้เราได้รวบรวม How-to วิธีเลือกสูทมาฝากแล้ว รับรองว่าใส่ออกมาแล้วเป๊ะ หล่อ สไตล์ผู้ดีเก่าอย่างแน่นอน! 

ประเภทของสูทผู้ชายมีกี่แบบ?

การใส่สูทนอกจากจะช่วยเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่แล้ว ยังเหมาะสมกับหลากหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานทางการ งานสังคม หรือแม้กระทั่งการประชุมทางธุรกิจ ซึ่งก่อนจะไปศึกษาวิธีเลือกสูทผู้ชายควรทำความรู้จักประเภทของสูทแต่ละแบบกันก่อน โดยทั่วไปแล้วสูทผู้ชายสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 แบบหลัก ๆ ดังนี้ 

1. สูทพื้นฐาน

สูทประเภทนี้เป็นตัวเลือกแรกที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักมีติดตู้เสื้อผ้าไว้ มักจะมีกระดุม 1 เม็ด สามารถใส่ได้หลากหลายโอกาส เช่น งานแต่งงาน งานสังสรรค์ หรือการประชุมเบา ๆ ลักษณะเด่นของสูทพื้นฐานคือดีไซน์ที่เรียบง่าย ใช้สีสุภาพ เช่น ดำ เทา หรือกรมท่า มักจับคู่กับเสื้อเชิ้ตสีพื้นและเนคไทเรียบ ๆ ส่วนกางเกงจะเป็นทรงกระบอกมีจีบด้านหน้าหรือเป็นทรงเรียบก็ได้ 

2. สูททางการ

สูททางการ (Formal Suit) ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในโอกาสที่ต้องการความเป็นระเบียบและดูน่าเชื่อถือที่สุด เช่น งานแต่งงาน งานเลี้ยงทางการ หรืองานประชุมใหญ่ ๆ สูทประเภทนี้มักมีการตัดเย็บที่ประณีตมากขึ้น ใช้เนื้อผ้าที่ดูหรูหรา และมักจับคู่กับเครื่องประดับ เช่น กระดุมข้อมือ (Cufflinks) หรือเนคไทที่มีลวดลายหรู ส่วนทรงกระดุมอาจใช้ 1 เม็ด หรือ 2 เม็ดก็ได้

3. ทักซิโด้

ทักซิโด้ (Tuxedo) เป็นสูทที่แสดงถึงความหรูหราและทางการมากที่สุด มักใช้ในงานกลางคืน เช่น งานเลี้ยงแบบ Black Tie หรือพิธีมอบรางวัล ตัวสูทมักมีปกแบบผ้าซาตินและกระดุมแบบ Satin-Coated หรือกระดุมจะต้องหุ้มด้วยผ้าเดียวกันกับตัวปก ซึ่งช่วยเพิ่มความโดดเด่น โดยทั่วไปจะใส่คู่กับเสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกโบว์ไท (Bow Tie) และรองเท้าหนังขัดเงา

4. สูทสำหรับธุรกิจ

สูทธุรกิจ (Business Suit) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการทำงานหรือการประชุมที่ต้องการความเป็นมืออาชีพ ตัวสูทมีดีไซน์ที่เรียบแต่ดูเป็นทางการ สีที่นิยมคือสีเข้ม เช่น เทาเข้ม น้ำเงินกรมท่า หรือดำ สูทประเภทนี้จะเน้นความสบายในการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน โดยความแตกต่างของสูทธุรกิจกับสูทแบบอื่น ๆ คือจะมีความโมเดิร์นกว่าโดยเน้นกระดุมแขนสี่เม็ด

5. สูทเบลเซอร์

สูทเบลเซอร์ (Blazer) เป็นตัวเลือก เหมาะสำหรับใส่ในโอกาสกึ่งทางการ เช่น งานสังสรรค์หรืองานเลี้ยงบริษัท ลักษณะเด่นของเบลเซอร์คือสามารถจับคู่กับกางเกงยีนส์หรือชิโน่ได้อย่างลงตัว โดยเนื้อผ้าค่อนจะมีความหนาเป็นพิเศษ ช่วงไหล่มีการเสริมให้ดูเป็นทรงมากขึ้น และมักใช้สีสดใสหรือมีลวดลายเพื่อเพิ่มความโดดเด่น

วิธีเลือกสูทผู้ชายให้เหมาะกับรูปร่าง

การเลือกสูทผู้ชายที่เหมาะสมไม่เพียงแค่เสริมบุคลิกภาพให้ดูดี แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ได้มากขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญคือการเลือกสูทที่เหมาะกับรูปร่างของแต่ละคน ซึ่งสามารถใช้แนวทางต่อไปนี้ได้ 

1. ผู้ชายผอมสูง

ผู้ชายที่มีรูปร่างผอมสูง ควรเลือกชุดสูทผู้ชายที่เสริมให้ร่างกายดูสมดุลและมีมิติ ดังนี้

  • เลือกสูทที่พอดีตัว: หลีกเลี่ยงสูทที่หลวมเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ดูผอมกว่าเดิม 

  • เนื้อผ้า: เลือกเนื้อผ้าที่มีความหนาเล็กน้อย เช่น ผ้าทวีด (Tweed) หรือผ้าลายเส้นเล็ก ๆ จะช่วยเพิ่มมิติให้รูปร่าง

  • สีและลวดลาย: การเลือกสูทที่มีลวดลายตาราง (Checkered) หรือสีสว่าง เช่น สีเทาอ่อน น้ำตาล หรือกรมท่า จะช่วยให้รูปร่างดูสมดุลขึ้น

  • กระดุม: ควรเลือกสูทผู้ชายแบบสองกระดุม เพื่อช่วยลดความยาวของลำตัว

2. ผู้ชายร่างเล็ก

ผู้ชายที่มีรูปร่างเล็ก ควรเลือกสูทที่ช่วยทำให้ดูสูงและสมาร์ทขึ้น ดังนี้:

  • เลือกสูทแบบ Slim Fit: สูทที่เข้ารูปเล็กน้อยจะช่วยให้ดูมีความสูงและเพรียวขึ้น

  • ปกสูท: ควรเลือกสูทผู้ชายที่มีปกขนาดเล็กถึงกลางจะเหมาะสมที่สุด เพราะช่วยสร้างสมดุลให้กับรูปร่าง

  • สีและลวดลาย: เลือกสีเข้ม เช่น กรมท่า เทาเข้ม หรือดำ จะช่วยทำให้ดูสง่าขึ้น และควรเลือกสูทลายทางแนวตั้ง (Pinstripe) เป็นตัวช่วยที่ดี เพราะทำให้ตัวดูสูงโปร่ง

  • กระดุม: เลือกสูทที่มีกระดุมสองหรือสามเม็ด โดยไม่ต้องติดกระดุมล่างสุด เพื่อช่วยพรางให้ตัวดูสูงขึ้น

3. ผู้ชายร่างใหญ่

ผู้ชายที่มีรูปร่างใหญ่ ควรเลือกสูทที่ช่วยพรางสายตาและทำให้รูปร่างดูสมส่วน ดังนี้:ช

  • เลือกสูทแบบ Classic Fit: สูทที่พอดีตัว ไม่รัดหรือหลวมเกินไป จะอำพรางหุ่นและเสริมให้ดูน่าเชื่อถือ

  • ปกสูท: ปกแบบกว้างปานกลาง (Wide Lapel) ช่วยให้รูปร่างดูสมดุล

  • เนื้อผ้า: เลือกเนื้อผ้าที่มีความบางเบาและตกทิ้งตัว เช่น ผ้าวูลผสม 

  • สีและลวดลาย: สีเข้ม เช่น ดำ เทาเข้ม หรือน้ำเงินกรมท่า จะช่วยพรางสัดส่วน และควรหลีกเลี่ยงลวดลายใหญ่หรือสีสว่าง

  • กระดุม: เลือกสูทแบบสองกระดุม เพื่อช่วยลดการเน้นบริเวณหน้าท้อง

เคล็ดลับเลือกสูทผู้ชายที่ต้องรู้ก่อนซื้อ

การเลือกสูทสำหรับผู้ชายนอกจากจะต้องคำนึงถึงโอกาสการใช้งานแล้ว ควรคำนึงถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อไปนี้ เพื่อให้ได้สูทที่เหมาะสมที่สุด ดังนี้

เสื้อสูทผู้ชายต้องใส่ให้พอดีกับหัวไหล่

หนึ่งในจุดสำคัญที่สุดของเสื้อสูทคือหัวไหล่ ต้องเลือกสูทที่ตัดพอดีกับแนวไหล่โดยไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป โดยอาจลองขยับแขนเพื่อดูว่าสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกหรือไม่ การเลือกสูทผู้ชายที่พอดีหัวไหล่จะทำให้ดูสมาร์ทและเสริมบุคลิกได้อย่างดี

เลือกความยาวแขนเสื้อสูทผู้ชายที่พอดี

แขนเสื้อสูทควรยาวถึงข้อมือพอดี เพื่อให้สามารถเห็นปลายแขนเสื้อเชิ้ตด้านในโผล่ออกมาเล็กน้อยประมาณ 1-2 เซนติเมตร หากแขนเสื้อยาวหรือสั้นเกินไป จะทำให้ลุคโดยรวมดูไม่เรียบร้อย 

ความยาวของตัวเสื้อสูทควรอยู่ระดับครึ่งก้น

ความยาวของเสื้อสูทเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ตัวเสื้อควรยาวพอดีกับระดับครึ่งก้นหรือปิดสะโพกพอดี ไม่ควรสั้นจนเกินไปเพราะจะดูไม่สมส่วน และไม่ควรยาวเกินเพราะจะทำให้ดูไม่คล่องตัว 

เทคนิคการเลือกสีสูท

ควรเลือกสีของสูทให้เหมาะสมกับโอกาสต่าง ๆ ดังนี้:

  • สีพื้นฐาน (ดำ, กรมท่า, เทา): เหมาะสำหรับโอกาสทางการ เช่น งานแต่งงานหรือการประชุม
  • สีอ่อน (เทาอ่อน, น้ำตาลอ่อน): เหมาะสำหรับงานกลางวันหรือโอกาสกึ่งทางการ
  • ลายเส้นหรือลวดลายเล็ก ๆ: เหมาะสำหรับงานที่ไม่เป็นทางการมากนัก

วิธีเลือกรองเท้าให้เข้ากับสูท

รองเท้าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมลุคของสูทให้สมบูรณ์ขึ้นได้ ซึ่งนอกจากการเลือกสีแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการขัดรองเท้าให้สะอาดและเป็นเงางามด้วย

  • สูทสีดำ: ควรจับคู่กับรองเท้าสีดำเสมอ
  • สูทสีกรมท่า: ใส่ได้ทั้งรองเท้าสีดำและสีน้ำตาลเข้ม
  • สูทสีเทา: เลือกรองเท้าสีดำหรือน้ำตาลเข้ม

 

สิ่งที่ต้องรู้ ขณะใส่สูท

นอกจากการเลือกสูทผู้ชายที่เหมาะสมแล้ว การใส่สูทยังมีกฎเกณฑ์และมารยาทที่ควรปฏิบัติเพื่อให้บุคลิกดูสง่างามและเหมาะสมกับโอกาสอีกด้วย เช่น  

1. ติดกระดุมเพียงเม็ดเดียว

เมื่อใส่เสื้อสูทที่มีกระดุมสองเม็ด ควร ติดกระดุมเฉพาะเม็ดบน และปล่อยเม็ดล่างไว้เสมอ เพื่อให้ลุคดูสมาร์ทและไม่ดึงรั้งตัวเสื้อ สำหรับสูทแบบกระดุมสามเม็ด ให้ติดกระดุมเม็ดกลาง หรือจะติดเม็ดบนด้วยก็ได้ ต่ไม่ควรติดเม็ดล่างเช่นกัน

2. เวลานั่งควรปลดกระดุม

ก่อนนั่งควรปลดกระดุมเสื้อสูททุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเสื้อย่นหรือเสียทรง อีกทั้งยังช่วยให้รู้สึกสบายมากขึ้นในระหว่างนั่ง เมื่อลุกขึ้น ควรติดกระดุมใหม่เพื่อคงความเนี้ยบและดูเป็นทางการ

3. กระเป๋าควรพับเก็บให้เรียบร้อย

กระเป๋าสูท โดยเฉพาะกระเป๋าด้านในและด้านนอก ควรใช้อย่างระมัดระวัง อย่าใส่ของที่มีขนาดใหญ่หรือทำให้กระเป๋าพอง เพราะจะทำให้สูทเสียรูปทรง โดยอาจใส่ผ้าเช็ดหน้าหรือ Pocket Square เพื่อเพิ่มความสง่างาม

4. เลือกความยาวกางเกงที่เหมาะสม

ความยาวของกางเกงสูทควรอยู่ในระดับที่พอดี ไม่ควรยาวจนพับเป็นกอง หรือสั้นจนเห็นถุงเท้ามากเกินไป ปลายกางเกงควรแตะกับรองเท้าเล็กน้อยเพื่อให้ลุคดูสุภาพและเรียบร้อย

5. รองเท้าต้องสะอาดเสมอ

รองเท้าที่ใส่คู่กับสูทควรขัดให้สะอาดและเงางามอยู่เสมอ รองเท้าสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มมักเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ควรเลือกสีของรองเท้าให้เข้ากับสีของสูทและเข็มขัดด้วย 
 

เป็นยังไงกันบ้างกับวิธีการเลือกสูทผู้ชายที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้หนุ่ม ๆ ตอนเลือกซื้อชุดสูทกันนะคะ ถ้าหากที่ใครกำลังมองหาร้านสูทคุณภาพดี ราคาดี อยู่แล้วล่ะก็สามารถแวะมาช้อป กันได้ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 1 โซน B เพราะเรามีร้านสูทและร้านเสื้อผ้าคุณผู้ชายชั้นนำอย่าง MUSCHIMA รอต้อนรับทุกคนอยู่

 

ช้อปเพลิน รับพอยท์คืน กับ MBK PLUS

MBK PLUS คือโปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการภายในศูนย์การค้า Paradise Park และธุรกิจในเครือ MBK เพียงนำใบเสร็จจากร้านค้าที่ร่วมรายการมาสะสมคะแนน แล้วนำคะแนนมาแลกรับส่วนลด คูปอง หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ได้มากมาย

# สะสม สุขจุกๆ: ทุกการช้อปมีแต่ได้ สะสมพอยท์เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมายแบบจุกๆ

# แลก สุขจุกๆ: ง่ายขึ้น 1 พอยท์ = 1 บาท แลกรับส่วนลดจุกๆ และความพิเศษทุกไลฟ์สไตล์

# แชร์ สุขจุกๆ: โอนคะแนนให้เพื่อน แชร์พอยท์ รวมทั้งชวนเพื่อน มาส่งต่อความสุขด้วยกันไม่รู้จบ

ตรวจสอบเงื่อนไขการสะสมคะแนนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.paradisepark.co.th/mbkplus.php 

อ้างอิง